“อนงค์ 2 : สามสี่ชาติ” ความรัก…ด้วยบุพเพนำพา ต่อให้ตาย หรือพลัดพลาดกี่ครั้ง กี่ชาติ โชคชะตา ก็ยังพากลับมาหากันเสมอ
                “อนงค์ 2 : สามสี่ชาติ” ความรัก…ด้วยบุพเพนำพา ต่อให้ตาย หรือพลัดพลาดกี่ครั้ง กี่ชาติ โชคชะตา ก็ยังพากลับมาหากันเสมอ
วีคลี่นิวส์..ได้มีโอกาสร่วมชมภาพยนตร์รอบกาล่าพรีเมียร์ภาพยนตร์เรื่อง “อนงค์ 2 : สามสี่ชาติ” ต้องขอกราบขอบพระคุณทีมผู้บริหาร และทีมประชาสัมพันธ์ M studio เป็นอย่างมากครับ
เรามาย้อนเรื่องราวอันอบอุ่น ของอนงค์ภาคแรกกันก่อนครับ
“อนงค์” ผีก็มีหัวใจ ความรักก็มีชีวิต
“อนงค์” คือหนึ่งในภาพยนตร์ไทยที่สร้างเสียงฮือฮาแห่งปี2567 ด้วยการผสมผสานความโรแมนติกและความหลอนอย่างกลมกลืน ถ่ายทอดเรื่องราวของ “อนงค์” วิญญาณสาวที่ยังคงสิงอาศัยอยู่ในบ้านที่เธอเสียชีวิตอย่างปริศนา กับบ่าวผีอีกสองคน จน “โจ” หนุ่มสมัยใหม่ที่บังเอิญได้พบและเข้าไปเกี่ยวพันกับเธอโดยไม่ได้ตั้งใจ จากมรดก ก็คือที่บ้านที่อนงค์สิงอยู่นั่นเอง
แม้ชื่อเรื่องจะเรียบง่าย แต่หนังกลับเล่าเรื่องด้วยอารมณ์ละเมียดและอบอุ่บ ไม่ได้พึ่งพาความน่ากลัวแบบฉาบฉวย อย่างทำให้ตกใจ หรือซีนซ่อนเร้น ลึกลับหรือบิ้วให้กลัว…หากแต่ให้ผู้ชมได้สัมผัส “หัวใจของผี” ที่ยังโหยหา ความเข้าใจและการค้นหาปริศนาการตายของเธอ และโครงกระดูกที่จะปลดปล่อยวิญญาณของเธอ หนังพาเราผ่านทั้งความเศร้า ความขำ และความซึ้งในเวลาเดียวกัน
จุดเด่นของเรื่องอยู่ที่เคมีของคู่พระ–นาง ที่ลงตัวของอนงค์และโจอย่างน่าประหลาด ทั้งคู่สามารถส่งอารมณ์ได้อย่างเป็นธรรมชาติ ฉากที่ทั้งสองมองตากันเพียงแวบเดียว กลับทำให้ผู้ชมรู้สึกถึงความผูกพันและความรักที่ข้ามภพชาติได้จริง ๆ ความอบอุ่นของ “โจ” และความละเมียดอ่อนโยนของ “อนงค์” กลายเป็นหัวใจหลักที่ทำให้หนังเรื่องนี้ตรึงผู้ชมไว้ตั้งแต่ต้นจนจบ และได้ความอบอุ่นและความประทับใจ ออกจากโรงหนัง
“อนงค์” ไม่ใช่แค่หนังผี แต่คือหนังรักที่พูดถึง “การยอมรับในความแตกต่าง และการให้อภัยต่ออดีต” มันทำให้ผู้ชมเข้าใจว่า แม้แต่ผีก็มีหัวใจ และสิ่งที่เขาต้องการอาจไม่ใช่การหลุดพ้น แต่คือ “การได้รับความเข้าใจจากใครสักคน”
ด้วยกระแสตอบรับที่ดีจากผู้ชม ทั้งด้านรายได้และเสียงชื่นชมในโลกออนไลน์ ทำให้ “อนงค์” กลายเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ไทยที่ถูกพูดถึงมากที่สุดของปี จึงไม่น่าแปลกใจเลย ที่ค่ายผู้สร้างได้ประกาศ เตรียมสร้างภาคต่อ เพื่อขยายเรื่องราวของความรัก ของอนงค์และโจ กลับมาอีกครั้งย้อนข้ามภพ ข้ามชาติ ให้ลึกซึ้งยิ่งกว่าเดิม
อนงค์2
“อนงค์ 2 : สามสี่ชาติ” เค้ารักกันมาทุกชาติ ความรักที่ไม่มีวันตาย
ภาพยนตร์รัก ผีโรแมนติกภาคต่อ ที่พร้อมกลับมาสร้างความอบอุ่นและน้ำตาให้แฟน ๆ ส่งท้ายปี 2568 ภายใต้การกำกับของผู้กำกับคนเดิม ที่เคยทำให้ “อนงค์” ภาคแรกกลายเป็นหนึ่งในหนังไทยที่มีกระแสปากต่อปากแรงที่สุดแห่งปีกันมาเเล้ว
อนงค์2 สร้างโดยคาร์แมนไลน์สตูดิโอ จากการกำกับของคมกฤษ ตรีวิมล ผู้กำกับจากภาคแรก นำแสดงโดยสุทธิรักษ์ ทรัพย์วิจิตร และเมลดา สุศรี และธามไท แพลงศิลป์
“เค้ารักกันมาทุกชาติ” กลายเป็นประโยคที่ถูกพูดถึงในโลกออนไลน์อย่างกว้างขวาง เพราะมันสื่อถึงหัวใจสำคัญของหนังภาคนี้ ความรักที่ไม่สิ้นสุด แม้ต้องข้ามภพข้ามชาติและข้ามความตาย
ในภาคใหม่นี้ เราเห็นเรื่องราวที่ลึกซึ้งและซับซ้อนยิ่งขึ้นของ “อนงค์” และ “โจ” ที่เคมีเข้ากันอย่างลงตัวในภาคแรก กลับมาพร้อมบทบาท ที่ถูกแบ่งเป็นในแต่ละชาติ มีการเล่าเรื่องในแต่ละชาติ ที่มีการผสมผสานตัดสลับกัน กันได้อย่างลงตัว พร้อมจุดหักมุม เซอร์ไพรส์บทสรุปของเรื่องได้ดี ความเป็นมา ขอจุดเริ่มต้นในภาค 1 และบทสรุปจบในภาค 2
ต่อให้แต่ชาติ ความรักไม่ได้มีแค่ความสุขแค่นั้น แต่ความรักก็สร้างความเจ็บปวดด้วยเช่นกันหนังพาเราเดินทางข้ามกาลเวลา ผ่านสามสี่ชาติของความรักที่เวียนวน จากคนแปลกหน้าในเเต่ล่ะ บจนกลายมาเป็นคนรัก และบางชาติ ในฐานะคนที่จำกันไม่ได้(ที่เจ็บปวด)
โครงเรื่องจะยังคงกลิ่นอายของความหลอนอันอบอุ่นแบบเดิม แต่ “อนงค์ 2” เพิ่มมิติทางอารมณ์มากขึ้น ทั้งในด้านความรัก การเสียสละ และคำถามสำคัญของชีวิตว่า “ถ้าความรักข้ามภพได้จริง เราจะยังเลือกคนเดิมอีกไหม?”
“อนงค์ 2 : สามสี่ชาติ”ในภาคนี้ เลยถูกจับตามองว่าอาจกลายเป็นหนังผีโรแมนติก ที่มาแรงที่สุดส่งท้ายปีนี้ ไม่ใช่แค่เพราะความซาบซึ้งของเนื้อเรื่อง แต่เพราะมันพูดถึงความรักในรูปแบบที่ทุกคนเข้าใจ (แม้สุดท้ายต่อให้เจ็บปวดแค่ไหน)ความรักที่ไม่เคยหมดอายุ ไม่ว่าชาติไหน
การกลับมาของอนงค์กับโจ ในครั้งนี้ ไม่ควรพลาดครับ จูงมือคนที่คุณรัก กุมมือกันระหว่างดูภาพยนตร์ แล้วคุณจะอิน กับภาพยนตร์เรื่องนี้อย่างแน่นอน หนังรักอบอุ่นส่งท้ายปี 2568 ไปร่วมให้กำลังใจอนงค์และโจกันครับ สุดท้ายความรักของเขาทั้งสองคน จะจบสรุปยังไง กับสามสี่ชาติต้องไปติดตามชมด้วยตัวเองครับ
“อนงค์ 2 : สามสี่ชาติ” ความรัก…ด้วยบุพเพนำพา ต่อให้ตาย หรือพลัดพลาดกี่ครั้ง กี่ชาติ โชคชะตา ก็ยังพากลับมาหากันเสมอ

                        











