รีวิวแฟมทริป เส้นทางยะลา-ป่าฮาลาบาลา สัมผัสธรรมชาติที่สวยงาม
วันนี้เราพาทุกคนมาล่องใต้ไปยะลากัน การเดินทางทางครั้งนี้มาจาก สนามบินกรุงเทพลงสนามบินหาดใหญ่ หลังจากนี้ เราก็จะออกเดินทางไปยัง จังหวัดยะลา ตามโปรแกรมที่วางไว้ เช้าในเมืองยะลา แวะสักการะ ศาลหลักเมือง ที่ตั้งอยู่ในกลางวงเวียนหน้าศาลากลาง จังหวัดเป็นที่สักการะบูชา เคารพนับถือของ ชาวจังหวัดยะลา นอกจากนี้ศาลหลักเมืองยะลา ยังเป็นจุดศูนย์กลางของผังเมืองรูปใยแมงมุม ซึ่งเป็นผังเมืองสวยที่สุดในประเทศ
หลังจากสักการะเราได้แวะทานอาหาร ที่ ร้านครัวลุงดำได้ทำอาหารอร่อย ไว้ต้อนรับให้เราได้ทาน ผัดสะตอกะปิกุ้ง ปลาทอดกระเทียม ผัดใบเลียงใส่ไข่ น้ำพริกกะปิ ข้าวร้อนๆ ทานเสร็จได้พูดคุยกับลุงดำ สร้างความประทับใจในรอยยิ้ม แถมทานไม่หมดลุงดำยังให้ห่อกลับไปทาน จากนั้น เราได้เดินทางต่อเข้าไปที่มูนเลค ซึ่งเป็นที่พักในคืนนี้ แต่เราพลาดไม่ได้เราจะต้องผ่าน สะพานฆอแย เป็นสะพานข้ามทะเลสาบฮาลา-บาลา ซึ่งเป็นจุดเช็คอิน ที่นักท่องเที่ยวไปต้องลงไปถ่ายสองฝั่งกับธรรมชาติ มองเห็นผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์ เราใช้เวลาที่นี่ประมาณ 10 นาที เราจึงเดินทางเข้าไปที่พักมูนเลค รีสอร์ท ที่เค้าว่ากันว่าสวิสเซอร์แลนด์ภาคใต้ บรรยากาศดีมาก อยู่ใกล้สะพานข้ามทะเลสาบ เขื่อนบางลาง พร้อมกับชมทะลสาบฮาลา-บาลา
ว่าที่ร้อยตรี พงศธร รัตนประพันธ์ ผู้อำนวยการกลุ่มงานบริหารยุทธศาสตร์กลุ่มจังหวัดภายใต้ชายแดน เปิดเผยว่า “ยุทธศาสตร์จังหวัดยะลา มีนโยบายขับเคลื่อน 4 เรื่องหลัก 1. ภาคเกษตร ซึ่งทุเรียนเป็นสินค้าสร้างชื่อ 2. การค้าชายแดนโดยเฉพาะกับประเทศมาเลเซีย 3. แหล่งชุมชนในการเชิดชูภูมิปัญญา และ 4. ท่องเที่ยว หากเจาะจงป่าฮาลาบาลา เราต้องการแหล่งท่องเที่ยวใหม่ เพื่อไม่ให้นักท่องเที่ยวกระจุกตัวอยู่แค่ภายในเมืองเบตง และป่าฮาลาบาลา ตอนนี้มีความร่วมมือกับประเทศมาเลเซีย ผลักดันให้เป็นผืนป่ามรดกอาเซียน และนำไปสู่มรดกโลกต่อไป
ตื่นเช้ามา กับอาหารมื้อเช้า ทานข้าวเหนียวไก่ทอดอันแสนอร่อย กาแฟ ขนมทอด พร้อมเดินทางต่อด้วย การล่องแพ ชมบรรยากาศทะเลสาบฮาลา-บาลา ทั้งสองฝั่ง ผ่านเกาะต่างๆ ช่วงที่พวกเรามาน้ำในทะเลสาบลดลง เราจะเห็นกิ่งไม้ โผล่ขึ้นมาตลอดการเดินทาง เรานั่งแพมาสัก 1 ชั่วโมง โดยมีลุงเปี๊ยก เป็นผู้นำชุมชน ได้เล่าเรื่องราวต่าง ๆ และวิถีชุมชนของคนที่นี่ พอสักพัก เราก็ถึง เกาะทวด จะตั้งอยู่กลางทะเลสาบฮาลา-บาลา หรือ กลางเขื่อนบางลาง เป็นเกาะที่พ้นน้ำบริเวณ โดยรอบ และมีเจ้าหน้าที่ อส. ธารโต จ.ยะลา อยู่ประจำการ โดยมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ได้มาเที่ยวเกาะนี้ไม่ขาดสาย และส่วนใหญ่จะมาขอพรและขอโชคลาภให้สุขสมใจ พวกเราได้ถ่ายรูปและจุดปะทัดเพื่อขอพร ทวดบูเกี๊ยะ หลังจากนั้นได้ลงแพต่อ เพื่อกลับไปลงที่มูนเลค แล้วเดินทางต่อเข้าเบตง เราไม่ลืมจุดเช็คอิน เบตง เพื่อให้รู้ว่าพวกเราได้ถึงแล้ว หลังจากนั้นได้เข้าที่พัก
ช่วงเย็นเราเดินทางมารับประทานอาหาร ที่ร้านหวายร้อยลี้ ที่เราสั่ง จานแรก คือ ไก่เบตง อร่อยมากสมกับคำร่ำลือทีเดียว ทางร้านแนะนำ ห่อหมก ต้มยำ ผัดผัก ทุกอย่างหมดอย่างรวดเร็ว จากนั้นเราเข้าที่พัก เพื่อออมแรงสำหรับวันรุ่งขึ้นเพราะต้องออกตี 4 เพื่อให้ทันพระอาทิตย์ขึ้น ที่ Sky Walk และแล้ว เช้าที่มืด แต่พอถึง สกายวอล์ค ทำให้เราว้าวมาก นี่เป็นครั้งแรก ของเราที่ได้มาที่นี่ มันมีด้วยเหรอในเมืองไทย และที่นี่ก็คือ สวยมาก หมอกจาง ๆ บรรยากาศรอบด้าน สวยงามไปหมดเรา ได้มองก้อนเมฆ เป็นเช้าที่สดใสมาก เราเดินเล่นในชั้น 3 สักชั่วโมงกว่า ถ่ายรูปและแอคชั่นทุกมุม และก็มานั่งดื่มกาแฟร้อน ๆ พร้อมชมบรรยากาศด้านล่าง เป็นเช้าที่
ได้รับพลังสุด
ยังไม่จบ ทริปนี้ก่อนกลับไปขึ้นเครื่องที่สนามบินหาดใหญ่ เราได้แวะขอพรที่ วัดคูหาภิมุข หรือ (วัดหน้าถ้ำ ) เป็นวัดที่สำคัญและเก่าแก่วัดหนึ่งของจังหวัดยะลา เดิมชื่อวัดหน้าถ้ำได้เปลี่ยนชื่อเป็น วัดคูหาภิมุข ในสมัยจอมพลแปลก พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรี อยู่ตำบลหน้าถ้ำ ภายในถ้ำใหญ่ประดิษฐานพระพุทธไสยาส์นขนาดใหญ่ พระพุทธรูป เก่าแก่หลายองค์ นอกจากนี้ ยังมีหินงอก หินย้อยสวยงาม และน้ำใสสะอาด เราได้กราบไหว้ขอพร ถึงเวลาที่เราได้เดินทางกลับไปสนามบินหาดใหญ่ มาเที่ยวทริปนี้บอกได้เลย ได้สัมผัสธรรมชาติ ผู้คนที่น่ารักให้การต้อนรับเราอย่างดี สุดท้ายต้องขอบคุณผู้ใหญ่ใจดี ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดยะลา ที่ได้เชิญเราไปทริปนี้
#รีวิวแฟมทริป #ยะลา #ฮาลาบาลา #เบตง